นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล​

บริษัท แพลน บี มีเดีย จํากัด (มหาชน) (“บริษัท” หรือ “แพลนบี“) บริษัทในเครือ และบริษัทในกลุ่มของแพลนบี ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Privacy) ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ บุคคลที่ได้เข้าชมเว็บไซต์ https://www.planbmedia.co.th/ คู่ค้า พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมและการดำเนินการต่าง ๆ ของบริษัท (รวมเรียกว่า “ท่าน”) บริษัทจึงได้กำหนดนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ซึ่งอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (“พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) กฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องขึ้นเพื่อแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติของบริษัทในการจัดเก็บรวบรวม การเข้าถึงข้อมูล วัตถุประสงค์ในการนำข้อมูลไปใช้ การโอนย้าย การเปิดเผยข้อมูลแก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง และการวิเคราะห์ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”)  อีกทั้งสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1)             ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม

                บริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่บริษัทโดยตรง หรือให้ผ่านบริษัท หรือมีอยู่กับบริษัท ทั้งที่เกิดจากการใช้บริการ ติดต่อ เยี่ยมชม ค้นหา ผ่านเว็บไซต์ หรือช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นใด และ/หรือ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับหรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่นซึ่งไม่ใช่จากท่านโดยตรง เช่น จากบริษัทในเครือ หรือบริษัทในกลุ่มของแพลนบี และ/หรือ ผู้ให้บริการข้อมูล เป็นต้น ซึ่งบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งอื่นได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่บริษัทมีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต โดยบริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ซึ่งรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้

(ก)           ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด สถานภาพสมรส เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง

(ข)           ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ไอดีไลน์

(ค)           ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ เช่น IP address, MAC address, Cookies ID

(ง)            ข้อมูลอื่น ๆ เช่น การใช้งานเว็บไซต์ และ/หรือ ข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

(ต่อไปในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้จะเรียกข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านข้างต้น รวมกันว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล” )

2)             วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

(ก)           เพื่อการให้บริการ การปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท รวมถึงบริการหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่จะมีในอนาคต ตลอดจนการดูแล การบำรุงรักษา และการดำเนินการ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการดังกล่าว

(ข)           เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ https://www.planbmedia.co.th/  หรือช่องทางโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ของบริษัทในเครือและบริษัทในกลุ่มของแพลนบี ตลอดจนการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้งานของผู้เข้าชมมากยิ่งขึ้น

(ค)           เพื่อการติดต่อสื่อสาร แจ้ง และ/หรือ รับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ จากบริษัท หรือการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นของบริษัท

(ง)            เพื่อการดำเนินการตามความประสงค์ของท่านตามที่ได้แจ้งไว้กับบริษัท

(จ)           เพื่อการนำเสนอสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ และ/หรือ บริการอื่น ๆ ของบริษัท เช่น ข้อเสนอเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการการส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาด และ/หรือ การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของบริษัท

(ฉ)           เพื่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การตรวจสอบ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงการบริการ การวิเคราะห์การใช้งานด้านบริการ การสำรวจการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การพิจารณาการดำเนินงานและขยายธุรกิจของบริษัท

(ช)           เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย การสืบสวนของเจ้าพนักงาน หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง และ/หรือ เพื่อให้เป็นไปตามกฎ ข้อบังคับ หรือบทบัญญัติของกฎหมาย

ทั้งนี้ หากมีวัตถุประสงค์อื่น ๆ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือจากที่ระบุไว้ข้างต้น บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบเพื่อขอความยินยอมจากท่านเป็นการเฉพาะ อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยไม่จำเป็นต้องขอความยินยอมจากท่านก่อน ในกรณีที่การเก็บรวมรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

(ก)           เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

(ข)           เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น

(ค)           เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย

(ง)            เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

3)             การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในการนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบริษัทในเครือ บริษัทในกลุ่มแพลนบี และบุคคลภายนอก ดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ของพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

(ก)           บริษัทในกลุ่ม และบริษัทในเครือ เพื่อการบริหารธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้อง

(ข)           บุคคลภายนอก และบริษัทในเครือของบุคคลภายนอก เพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุภายใต้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เช่น

  • หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น ศาล ตำรวจ เป็นต้น
  • ตัวแทน และหรือผู้ให้บริการ ในการดำเนินงานใด ๆ ของบริษัท เช่น ผู้ให้บริการเก็บและทำลายเอกสาร ผู้ให้บริการด้านสารสนเทศ เป็นต้น
  • บุคคลภายนอกตามความยินยอมจากท่าน หรือตามข้อกำหนดของสัญญา หรือตามข้อกำหนดของกฎหมาย แล้วแต่กรณี

ทั้งนี้ บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกในกรณีที่บุคคลภายนอกดังกล่าวนั้นตกลงที่จะรักษาความลับของข้อมูลอย่างเคร่งครัดซึ่งมีมาตรฐานไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้และตกลงจะใช้ข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะตามที่บริษัทได้แจ้งไว้เท่านั้น นอกจากนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกอื่นใดอีก ในกรณีดังต่อไปนี้

  • เป็นการปฎิบัติตามกฎหมาย หรือตามอำนาจของหน่วยงานกำกับดูแล หรือ
  • มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าการเปิดเผยนั้นมีความจำเป็นต่อการป้องกันหรือตรวจสอบการกระทำความผิดทางอาญา รวมถึงการฉ้อโกง หรือเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ
  • มีข้อยกเว้นภายใต้พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถกระทำได้

4)             การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

                บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น เช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ให้บริการในประเทศต่าง ๆ โดยในกรณีนี้บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการดำเนินการให้การส่งหรือโอนข้อมูล และการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีมาตรฐานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมและสอดคล้องกับพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นใดที่เกี่ยวข้อง เช่น มีข้อตกลงรักษาความลับกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าว หรือนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายในบริษัทในกรณีที่ผู้รับข้อมูลเป็นบริษัทในเครือ หรือบริษัทในกลุ่มของแพลนบี

5)             ระยะเวลาและการจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ทั้งนี้ บริษัทอาจจำเป็นต้องจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ต่อไปภายหลังบรรลุวัตถุประสงค์แล้วหากกรณีมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดหรืออนุญาตไว้  เช่น จัดเก็บไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิจารณาพยานหลักฐานกรณีเกิดข้อพิพาทภายในอายุความตามที่กฎหมายกำหนดเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี หรือภายหลังกำหนดอายุความ กรณีอยู่ระหว่างการดำเนินคดีหรือพิจารณาคดีตามกฎหมาย เป็นต้น

ทั้งนี้ บริษัทจะจัดเก็บไว้ในสถานที่จัดเก็บที่เหมาะสมตามประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล โดยใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยและใช้บังคับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายในบริษัท บริษัทในเครือ และบรษัทในกลุ่มแพลนบีอย่างเข้มงวดในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการเข้ารหัสข้อมูล และมาตรการป้องกันการเข้าถึงข้อมูล โดยบริษัทกำหนดให้บุคลากรของบริษัทและผู้รับจ้างภายนอกจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานและนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

6)            สิทธิตามกฎหมายของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล

                ท่านสามารถใช้สิทธิของท่านตามพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ตามช่องทางที่บริษัทกำหนด และในกรณีท่านมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ หรือถูกจำกัดความสามารถในการทำนิติกรรมตามกฎหมาย ท่านสามารถขอใช้สิทธิโดยให้บิดาและมารดา ผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือมีผู้อำนาจกระทำการแทนเป็นผู้แจ้งความประสงค์เพื่อใช้สิทธิ

(ก)           สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิเข้าถึงและได้รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทมีอยู่ รวมถึงขอให้บริษัท เปิดเผยว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นได้มาอย่างไรโดยปราศจากความยินยอมของท่าน เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

(ข)           สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัททำการแก้ไข หรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

(ค)           สิทธิในการขอถอนความยินยอม

ท่านมีสิทธิขอถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทเมื่อใดก็ได้ (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่
พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ตามขั้นตอนและวิธีการที่บริษัทกำหนด เว้นแต่โดยสภาพแล้วไม่สามารถถอนความยินยอมได้โดยกฎหมาย หรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว

(ง)            สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ในกรณีที่บริษัทดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล เพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีเหตุผลในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย แล้วแต่ละกรณี

(จ)           สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกประมวลผลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้ว รวมไปถึงกรณีที่ท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน

(ฉ)           สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ในบางกรณี เช่น กรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้แทนเนื่องจากท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายการปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

                (ช)           สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทสามารถทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่บริษัทไม่สามารถทำได้โดยสภาพทางเทคนิค หรือบริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย

(ซ)           สิทธิในการร้องเรียน

ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

7)             การใช้คุ้กกี้ (Cookies)

บริษัทอาจใช้คุ้กกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน เมื่อท่านเข้าชมหรือใช้บริการเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อช่วยในการจัดเก็บข้อมูลเช่น การจัดเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานเว็บไซต์ ช่วงเวลาที่เข้าใช้งาน การตั้งค่าทางภาษาและข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์อื่น ๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานเว็บไซต์ การแสดงผลข้อมูลที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเพื่อพัฒนาประสบการณ์การเข้าชมเว็บไซต์ให้ตรงตามความต้องการของท่าน รายละเอียดโปรดดู นโยบายการใช้คุกกี้

8)             วิธีการติดต่อ             

ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล การใช้สิทธิตามกฎหมาย หรือกรณีมีข้อร้องเรียนใด ๆ ท่านสามารถติดต่อบริษัทผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่งดังต่อไปนี้

บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน). 

สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 1213/420 ลาดพร้าว 94 ถนนศรีวรา หมู่บ้านทาวน์อินทาวน์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310

ฝ่ายทรัพยากรบุคคล: โทร. 02-530-8053-6

อีเมล: hr@planbmedia.co.th.122.155.5.137.no-domain.name

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 1213/420 ลาดพร้าว 94 ถนนศรีวรา หมู่บ้านทาวน์อินทาวน์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310

อีเมล: dpo@planbmedia.co.th.122.155.5.137.no-domain.name

9)             การแก้ไขเปลี่ยนแปลงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว โดยบริษัทจะแจ้งนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วบุคคลฉบับปัจจุบันไว้ที่เว็บไซต์ของบริษัท https://www.planbmedia.co.th/

นโนบายการใช้คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ได้รับการปรับปรุงล่าสุดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2564

        This site is registered on wpml.org as a development site.